Line@

เพิ่มเพื่อน

mainnox - เมนนอกซ์ ยาบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดอาการเกร็ง แก้อาการปวดท้องเมนส์

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

7 หลักการกินเพื่อเสริมการทำงานของสมอง

   



 วิถีการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันมักถูกกดดันจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ครอบครัวหรือการทำงาน ต่างบั่นทอนพลังกาย พลังสมอง บ่อยครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา สมองตื้อ ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ค่อยดี ถ้าปล่อยไว้นานอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดเจ็บป่วยตามมา ประโยชน์ของโภชนาการเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเสริมสร้างสุขภาพและเพิ่มพลังให้กับสมอง 

          คนส่วนใหญ่รู้ว่าอวัยวะสำคัญที่เป็นศูนย์ควบคุมและบัญชาการทำงานของร่างกายคือ "สมอง"เป็นหน่วยเก็บความจำและมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความรู้สึกของคนเราด้วย แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า อาหารมีความสำคัญต่อการพัฒนาของสมองไม่แพ้ทางร่างกาย 

          สมองจะทำงานได้ดีโดยเราต้องเลือกการกินอาหารให้หลากหลาย ครบถ้วน ทุกหมวดหมู่ในปริมาณพอเหมาะ ดูแลสุขภาพหลอดเลือดหัวใจไปพร้อม ๆ กัน ร่วมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอนหรือนอนดึก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และดื่มน้ำเพียงพอ ฝึกใช้สมองความคิดเสมอ ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาและชะลอการเสื่อมของสมองอย่างได้ผลดี

          การจะมีสุขภาพกายและสุขภาพสมองที่ดี ต้องรู้จักที่จะปฏิบัติตนให้มีโภชนาการที่ดี สำหรับหลักการกินเพื่อการส่งเสริมการทำงานของสมอง มีดังนี้





1. กินอย่างฉลาด 

          สารอาหารที่สมองต้องการใช้ในยามเตรียมสอบหรือยามใช้สมองทำงานหนัก ได้แก่ วิตามินบีต่าง ๆ และธาตุเหล็ก อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์โดยเฉพาะส่วนของเนื้อล้วน ผักใบเขียวจัด ถั่วเมล็ดแห้ง นอกจากนี้อาหารฟังก์ชั่นบางชนิดที่สะดวกต่อการบริโภค และให้โปรตีนในรูปเปปไทด์ซึ่งร่างกายนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น เช่น ซุปไก่สกัด ซึ่งมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจำพวกธาตุเหล็กที่เป็นองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดงได้ดีขึ้นและช่วยให้เลือดขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองในด้านการเรียนรู้และความจำ รวมถึงช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน 

          งานวิจัยที่ผ่านมาพบอีกว่าซุปไก่สกัด มีส่วนช่วยลดความอ่อนล้าของสมอง ช่วยให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น ล่าสุดมีงานวิจัยในวารสาร Medicine พบว่า ซุปไก่สกัดมีผลช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้จดจำ โดยเฉพะความจำระยะสั้นในกลุ่มคนวัยทำงานที่มีภาวะเครียดและวิตกกังวลสูง ส่วนอาหารที่มีวิตามินบีสูง ได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสี จมูกข้าว ไข่และถั่วต่าง ๆ อาหารโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไก่ ปลา หมู เนื้อ ไข่ รวมทั้งโปรตีนถั่ว ต่างก็ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง

2. กินอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง 

          เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน วิตามินอี ใยอาหาร ซึ่งหากินได้ไม่ยากจากผักผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นส้ม แอปเปิล กล้วย พรุน เบอร์รี แครอท เป็นต้น สารแอนติออกซิแดนท์จะช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นมากในสมองในยามเครียด ทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น

3. กินให้เป็นเวลา 

          จะช่วยให้รักษาระดับพลังงานของร่างกายและวิตามินแร่ธาตุให้คงที่ ในการที่ร่างกายจะดึงไปใช้ได้ตลอดเวลา  

4. กินอาหารมื้อเล็ก ๆ 5-6 มื้อ 

          ปรับมื้ออาหารหลักให้มีปริมาณน้อยลงโดยกิน 5-6 มื้อต่อวันจะทำให้ระบบของร่างกายทำงานดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและสมองไม่ล้าตลอดวันและช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

5. ห้ามงดอาหารเช้าเด็ดขาด 

          เพราะจะทำให้สมองตื้อได้ อาหารเช้าจะช่วยเสริมพลังให้สมอง แต่ทั้งนี้ขึ้นกับคุณภาพของอาหารเช้า หากเป็นกาแฟ โดนัท หรือเค้ก คุกกี้ ไม่ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อาหารเช้าที่ดีควรจะมีโปรตีน แคลเซียม ใยอาหาร ผลไม้และผัก แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว สะดวก ขนมปังโฮลวีทสักแผ่น ซุปไก่สกัดสักขวด แอปเปิลสักผล แครอทสดสักชิ้น นมสักแก้ว ก็ให้สารอาหารดี ๆ มากทีเดียว

6. ให้ผลไม้เป็นอาหารว่างระหว่างวัน 

          เพื่อให้สารอาหารดี ๆ ต่อสมองมากกว่าขนมที่มีไขมันสูง เพราะผลไม้เป็นแหล่งของสารแอนติออกซิแดนท์ที่จะช่วยลดอนุมูลอิสระที่จะทำลายสมอง เช่น บลูเบอร์รี พรุน มีสารแอนติออกซิแดนท์สูงสุดในบรรดาผลไม้ด้วยกัน 

7. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ 

          ควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เน้นการดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและคาเฟอีน คาเฟอีนมากไปจะทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายได้ 

          นอกจากการปฏิบัติตามหลักข้างต้น ต้องหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน ไม่สูบบุหรี่ และพยายามหมั่นทำจิตใจให้แจ่มใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและสมองได้ไม่ยากเลย 

ข้อมูลโดย อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพจากสหรัฐอเมริกา
cr.kapook.com

----------------------------------------------------------------
‪#‎Mainnox‬ - เมนน็อกซ์ ‪#‎บรรเทาอาการปวด‬ ‪#‎ลดอาการเกร็ง‬ 
- ยาบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ที่มีสารMefenamix acid เพื่อลดอาการปวด
- และ Dicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็งของกล้ามเนื้อ 
ซึ่งเป็น2อาการหลักของผู้ปวดท้องประจำเดือน
----------------------------------------------------------------
• มีสารDicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็ง
• หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ
>>> Line ID : @Mainnox หรือ กด http://line.me/ti/p/%40mainnox


วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เช็กด่วน! ปัญหาสุขภาพ สัญญาณเตือนร่างกายขาดวิตามินดี

วิตามินดี เป็นสารอาหารสำคัญที่มีต่อร่างกายไม่น้อยทีเดียว หลายคนอาจจะหันไปให้ความสนใจแต่วิตามินหรือสารอาหารอื่นๆ จนละเลยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี หรือแม้กระทั่งการตากแดดอ่อนๆ ยามเช้าก็ยังหลีกเลี่ยง จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา
เรามาดูกันนะคะว่าปัญหาสุขภาพที่เกิดจากร่างกายมีอะไรบ้าง มาเช็กกันได้เลยค่ะว่าสัญญาณเตือนขาดวิตามินดีในร่างกายของคุณ มีแบบนี้บ้างหรือเปล่า?
ผิวคล้ำง่ายขึ้น
มีผลการศึกษาจากทางการแพทย์ค้นพบว่า แสงแดดที่มีระดับความรุนแรง โดยมีค่า SPF 30 จะลดประสิทธิภาพของการผลิตวิตามินดีในผิวได้มากถึง 97% นั่นก็หมายความว่า ผิวหนังของคนเราจะสามารถต้านทานแสงแดดได้น้อยลง จนทำให้เกิดสีผิวดำคล้ำจากแดดได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น หากใครรู้สึกว่าผิวพรรณเริ่มหมองคล้ำจากแดดง่าย นั่นก็บ่งบอกแล้วนะคะว่าร่างกายกำลังเตือนให้คุณหันมากินวิตามินดีเพิ่มขึ้นแล้วนั่นเอง


ปวดเมื่อยตามตัวบ่อยๆ
ยิ่งในช่วงหน้าหนาวและตอนเช้าๆ ที่ลุกขึ้นจากเตียง หากรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย ทั้งกลามเนื้อต่างๆ และกระดูก นั่นบ่งบอกได้ว่าร่างกายกำลังขาดวิตามินดีสูงกว่า 80% เลยทีเดียว
มีอาการซึมเศร้า
เพราะวิตามินดีเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของสารสื่อนำประสาทเซโรโทนิน โดยมีความสอดคล้องกันกับผลการศีกษาจากทางการแพทย์ในปี ค.ศ. 1998 ที่ได้พิสูจน์ในกลุ่มอาสาสมัครที่ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ ซึ่งพบว่า พวกเขามีภาวะอารมณ์ที่เป็นไปในทางบวก มากกว่าอาสาสมัครที่ร่างกายไม่ได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ

เกิดปัญหาภายในสุขภาพช่องท้อง
เนื่องจากวิตามินดีมีส่วนกระตุ้นลำไส้ให้สามารถดูดซึมไขมันได้ดีมากขึ้น แต่หากร่างกายได้รับวิตามินดีในปริมาณไม่เพียงพอ การดูดซึมไขมันก็จะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพได้ดังเดิม จนทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องบิด ท้องเสีย และลำไส้อักเสบ ตลอดจนอาการต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในช่องท้องทั้งหมด เพราะฉะนั้น หันมากินวิตามินดีให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายกันจะดีกว่านะคะ
เหงื่อออกเยอะ
การที่ร่างกายมีเหงื่อออกเยอะ ก็อาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวหรือมีไข้ เพราะแพทย์ได้บอกไว้ว่า การที่เหงื่อออกมากจนสังเกตได้อย่างชัดเจน แปลว่าร่างกายกำลังขาดวิตามินดีมากพอสมควร และถ้าไปรักษากับแพทย์ แพทย์อาจจะจัดวิตามินดีให้ผู้ป่วยรับประทานเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าการขาดวิตามินดี หรือร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างไรบ้าง ใครที่มีปัญหาเหล่านี้อยู่ ลองหันมารับวิตามินดีง่ายๆ ด้วยการรับแสงแดดยามเช้าๆ โดยเฉพาะช่วงเวลา 7.00-9.00 น. หลังจากนั้นแล้ว แสงแดดจะร้อนแรงมาก หากตากแดดล่ะก็อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังแทนได้ค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock
CR.sanook.com
----------------------------------------------------------------
‪#‎Mainnox‬ - เมนน็อกซ์ ‪#‎บรรเทาอาการปวด‬ ‪#‎ลดอาการเกร็ง‬ 
- ยาบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ที่มีสารMefenamix acid เพื่อลดอาการปวด
- และ Dicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็งของกล้ามเนื้อ 
ซึ่งเป็น2อาการหลักของผู้ปวดท้องประจำเดือน
----------------------------------------------------------------
• มีสารDicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็ง
• หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ
>>> Line ID : @Mainnox หรือ กด http://line.me/ti/p/%40mainnox

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ลดอาการปวดท้องน้อยช่วงมีประจำเดือน







ลดอาการปวดท้องน้อยช่วงมีประจำเดือน


       -  
คุณสาว ๆ ที่มักมีอาการปวดช่วงท้องน้อย ซึ่งอาจเกิดจากการมีเลือดคั่ง ความเย็นสะสมอยู่รอบ ๆ สะดือ รังไข่ และมดลูก วิธีเยียวยาอาการดังกล่าวนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ

      -
 เพียงแค่คุณสาว ๆ นำเมล็ดถั่วแดง 500 กรัม บรรจุใส่ลงในถุงผ้าแล้วมัดปากถุงด้วยเชือกปอ ก่อนนำไปอบในไมโครเวฟระดับความร้อนปานกลางนาน 3-4 นาที จากนั้นนำถุงถั่วแดงไปประคบบริเวณท้องน้อย ให้คุณผู้หญิงใช้มือลูบไล้เบา ๆ ที่ผิวหนังซึ่งตรงกับรังไข่แล้วจึงประคบด้วยถุงถั่วแดง ก็จะสามารถบรรเทาอาการเลือดคั่ง ลดบวม และบรรเทาอาการอักเสบได้

     - 
 นอกจากนี้ควรทำร่วมกับการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ สำหรับอาหารที่มีประโยชน์ช่วยรักษาอาการช่องคลอดอักเสบนั้น มีทั้งกระเทียมและกะหล่ำปลี มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อโรคร้าย ส่วนหอมใหญ่กับผักกาดจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบ 

      ขณะที่ผักกาดเกาหลีนั้นช่วยจัดการซ่อมแซมเยื่อบุผิว ส้มและมะเขือเทศเป็นตัวเสริมวิตามิน แถมยังกระตุ้นการทำงานของเซลล์และชะลอความแก่ ผักดองและผงชูรสจะช่วยขจัดเชื้อยีสต์ที่ก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกาย แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ 

     -  
 และในทางตรงกันข้ามอาหารที่คุณผู้หญิงช่องคลอดอักเสบควรหลีกเลี่ยงนั้นคือ อาหารที่แปรรูปมาจากข้าวสาลี ขนมปัง เบียร์ ผลิตภัณฑ์จากนม ไอศกรีม มิลค์เชค และเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้อาการอักเสบทวีความรุนแรงขึ้น



CR. คู่หูเดินทาง

----------------------------------------------------------------
‪#‎Mainnox‬ - เมนน็อกซ์ ‪#‎บรรเทาอาการปวด‬ ‪#‎ลดอาการเกร็ง‬ 
- ยาบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ที่มีสารMefenamix acid เพื่อลดอาการปวด
- และ Dicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็งของกล้ามเนื้อ 
ซึ่งเป็น2อาการหลักของผู้ปวดท้องประจำเดือน
----------------------------------------------------------------
• มีสารDicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็ง
• หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ
>>> Line ID : @Mainnox หรือ กด http://line.me/ti/p/%40mainnox






วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559



Dicyclomine HCL คืออะไร?
-----------------------------------
การปวดประจำเดือนของผู้หญิง นอกจากอาการปวดที่เกิดขึ้นจากการบีบรัดและ อีกสาเหตุหนึ่งมาจาก ‪#‎อาการเกร็ง‬ ของมดลูกและอวัยวะภายใน
‪#‎DicyclomineHCL‬ คือตัวยาที่มีหน้าที่ช่วยลดอาการเกร็งซึ่งเปรียบเสมือน เป็นตัวช่วยที่สำคัญ ในการ ลดอาการหดเกร็งของ ลำไส้ ท่อน้ำดี กระเพาะปัสสาวะ และมดลูก ซึ่งเป็นอาการหลักที่พบได้ บ่อยใน สตรีช่วงมีรอบเดือน จึงเปรียบเสมือนตัวช่วยที่สำคัญ พกพาสะดวก และยังมีสีสัน สดใส เหมาะสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการ ใช้เวลา ในทุกๆวัน อย่างมีประสิทธิ์ภาพหมดปัญหาเรื่องกวนใจและ พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
-----------------------------------------------------------
‪#‎Mainnox‬ - เมนน็อกซ์ ‪#‎บรรเทาอาการปวด‬ ‪#‎ลดอาการเกร็ง‬
- ยาบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ที่มีสารMefenamix acid เพื่อลดอาการปวด
- และ Dicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็งของกล้ามเนื้อ
ซึ่งเป็น2อาการหลักของผู้ปวดท้องประจำเดือน
----------------------------------------------------------------
• มีสารDicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็ง
• หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ
>>> Line ID : @Mainnox หรือ กด http://line.me/ti/p/%40mainnox

Mainnox คืออะไร ?

Mainnox -เมนนอกซ์ ยาแก้ปวดท้องเมนส์

เมนนอกซ์ ( Mainnox )  เป็นผลิตภัณฑ์  จาก บริษัท เจริญเภสัชแล๊บ จำกัด  หรือ (CB-LAB) ซึ่ง เป็นโรงงานที่ได้รับ มาตรฐาน PICS มีผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับยาคุณภาพหลายชนิด ที่มีในท้องตลาด ทั้งในและต่างประเทศ

รู้จักเมนนอกซ์
เมนนอกซ์ เป็นยารรเทาอาการปวด ลดอาการเกร็งซึ่งมีตัวยาที่สำคัญคือ
1. Mefenamic  acid ซึ่งช่วยในการ บรรเทาอาการปวดประจำเดือนอย่างมีประสิทธิ์ภาพ ทำให้ผู้ใช้สามรถลดอาการปวดท้องจากประจำเดือนได้อย่างรวดเร็ว 

2Dicyclomine HCL   ลดอาการเกร็งซึ่งเปรียบเสมือน เป็นตัวช่วยที่สำคัญ ในการ ลดอาการหดเกร็งของ ลำไส้ ท่อน้ำดี กระเพาะปัสสาวะ และมดลูก 


เมื่อ 2 ตัวยา ที่สำคัญ มาเจอกัน ทำให้ผู้ใช้ รับมือกับปัญหา การปวดและเกร็งของรอบเดือนได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ  ซึ่งเป็น 2 อาการหลัก
ที่พบได้ บ่อยใน สตรีช่วงมีรอบเดือน  จึงเปรียบเสมือนตัวช่วยที่สำคัญ พกพาสะดวก และยังมีสีสัน สดใส เหมาะสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการ ใช้เวลา ในทุกๆวัน อย่างมีประสิทธิ์ภาพหมดปัญหาเรื่องกวนใจและ ร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

9 วิธี เดินลดพุง ให้หุ่นฟิตเฟิร์ม



 วิธีลดพุงง่าย ๆ แค่เดินออกกำลังกายก็มีหน้าท้องฟิต ๆ ได้ แค่ทำตามนี้ ก็ได้ประโยชน์สองต่อไปแบบเต็ม ๆ

          การเดิน ถือเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและได้ผลดีต่อสุขภาพอย่างมากมาย เช่นที่เราเคยได้ยินกันว่า เดินวันละ 10,000 ก้าว ช่วยทำให้มีสุขภาพดี แต่ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ เพราะการเดินออกกำลังกายยังช่วยทำให้หน้าท้องฟิต แอนด์ เฟิร์มได้ด้วยล่ะ แค่เพียงเพิ่มเติมเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เข้าไปในการเดิน ก็สามารถทำให้ไขมันย้วย ๆ ที่ท้องหายไป เหลือแต่กล้ามเนื้อหน้าท้องสวย ๆ ให้คุณได้ภาคภูมิใจ

1. เดินตัวตรง

          ท่าทางในการเดินส่งผลดีมากกว่าที่คิด ไม่เพียงแค่ช่วยให้มีบุคลิกภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องและหลังได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว ซึ่งท่าทางในการเดินออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ หน้าตรง เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรเกร็งคอ ไหล่ และหลัง ถ้าทำได้ตามนี้ การเดินออกกำลังกายของคุณจะได้ผลดีต่อกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบนแน่นอน




2. แกว่งแขนขณะเดิน

          เราอาจจะเคยได้ยินว่าการแกว่งแขนขณะเดินจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้นและทำให้เดินเร็วขึ้น แต่นอกจากนี้การแกว่งแขนก็ยังช่วยให้ร่างกายทั้งส่วนบนและล่าง รวมทั้งหน้าท้องได้ออกกำลังกาย แค่เพียงแกว่งแขนไปตามจังหวะการเดินเท่านั้น แต่ถ้าอยากให้ร่างกายเผาผลาญได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็สามารถเร่งจังหวะการแกว่งแขนได้ รับรองได้เลย ถ้าทำเป็นประจำไขมันที่หน้าท้องมลายหายไปชัวร์ !

 3. ทำท่าชกลม 

          เราอาจจะเคยเห็นว่าบางคนเวลาที่เดินออกกำลังกายจะทำท่าชกลมไปด้วย ขอบอกว่านั่นไม่ใช่ท่าทางแสดงความฟิตเพียงอย่างเดียวนะ แต่ยังเป็นวิธีออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น ขณะที่ชกออกไปข้างหน้ายังช่วยให้กล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนได้ออกกำลังกาย รวมทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ดังนั้นคราวหน้าถ้าคุณเดินออกกำลังกาย ลองเดินไปชกลมไป โดยชกไปข้างหน้า 20 ครั้ง ชกขึ้นเหนือศีรษะ 20 ครั้ง ในทุก ๆ 2 นาทีของการเดิน อาจจะทำให้เหนื่อยขึ้นอีกหน่อย แต่รับรองผลที่ออกมาคุ้มค่าแน่นอน 



 4. ก้าวในความยาวที่เหมาะสม

          ความยาวของแต่ละก้าวมีความสำคัญต่อการเดินเพื่อลดไขมันหน้าท้อง ระยะก้าวที่สม่ำเสมอจะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้โดยไม่เกิดการสะดุด อีกทั้งระยะก้าวเท้าที่เหมาะสมยังทำให้เราสามารถเดินได้นานขึ้น ดังนั้นถ้าคิดจะเดินออกกำลังกาย อย่ารีบเร่งด้วยการก้าวเท้ายาว ๆ ดีกว่านะคะ



5. ยกเข่าสูง

          การยกเข่าสูงขึ้นในขณะเดินก็ถือเป็นการออกกำลังกายหน้าท้องไปอีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ร่างกายอยู่ในท่าคล้ายกับท่าครันช์ ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นส่วนท้องโดยตรง หรือถ้าจะให้การเดินได้ผลยิ่งขึ้นก็ลองทำท่าครันช์ในขณะที่เดิน โดยใช้มือทั้งสองข้างประสานไว้ที่หลังศีรษะ แล้วยกเข่าขึ้นแตะกับศอกด้านตรงข้ามสลับกัน ทำซ้ำ 8 ครั้ง ก่อนจะหยุดเดิน จะช่วยให้ไขมันตรงหน้าท้องเผาผลาญได้เยอะเลยเชียวล่ะ

 6. แขม่วท้อง

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การแขม่วท้องช่วยลดพุงได้ และทำให้เราทิ้งน้ำหนักลงไปที่สะโพกน้อยลง อีกทั้งยังกระตุ้นการหายใจ ปรับบุคลิกภาพ ทำให้ข้อต่อบริเวณหลังและกระดูกเชิงกราน รวมทั้งหลังส่วนล่างรับน้ำหนักน้อยลง และแน่นอนว่าก็สามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องไปได้ในตัว แต่ทั้งนี้ควรตั้งตัวตรงในขณะที่เดิน ห้ามหลังงอโดยเด็ดขาด ไม่งั้นอาจจะทำให้บุคลิกภาพเสียได้



 7. ยืดขาตรง

          การเดินโดยยืดขาตรงอาจจะทำให้ท่าทางการเดินดูตลก แต่ผลที่ได้คุ้มค่ามากเลยนะจะบอกให้ ซึ่งการยืดขาตรงขณะที่เดินจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างได้ออกกำลังกายไปด้วย เนื่องจากการเดินแบบยืดขาตรงจะต้องทิ้งน้ำหนักไปที่หน้าท้องส่วนล่างมากกว่าการเดินแบบปกติ แต่ไม่จำเป็นต้องเดินแบบนั้นตลอดการออกกำลังกายก็ได้นะคะ ทำแค่เพียง 8-10 ครั้งในขณะที่เดินก็ช่วยได้มากแล้ว



 8. เดินในทางลาดชัน

          ทางที่ลาดขึ้น หรือบันได จะทำให้เราต้องออกแรงในการเดินมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานจำนวนมากเพื่อใช้ในการเดิน ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณกล้ามเนื้อลดลง แถมหลังออกกำลังร่างกายก็ยังเผาผลาญพลังงานเท่ากับตอนที่ออกกำลังกาย เห็นข้อดีแบบนี้แล้วถ้าไม่ลองล่ะเสียดายแย่ แค่เพียงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็จะทำให้หน้าท้องของคุณฟิต แอนด์ เฟิร์มได้ 



9. เดินบ่อย ๆ


          ความถี่ในการเดินออกกำลังกาย สามารถช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ เพราะยิ่งเดินบ่อย ๆ ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรีได้มาก โดย The American College of Sports Medicine ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง เพราะความสม่ำเสมอจะทำให้การออกกำลังกายได้ผลมากกว่าความหนักหน่วงในการออกกำลังกาย


Cr. prevention.com 
howcast.com 
livehealthy.chron.com
----------------------------------------------------------------
‪#‎Mainnox‬ - เมนน็อกซ์ ‪#‎บรรเทาอาการปวด‬ ‪#‎ลดอาการเกร็ง‬ 
- ยาบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ที่มีสารMefenamix acid เพื่อลดอาการปวด
- และ Dicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็งของกล้ามเนื้อ 
ซึ่งเป็น2อาการหลักของผู้ปวดท้องประจำเดือน
----------------------------------------------------------------
• มีสารDicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็ง
• หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ
>>> Line ID : @Mainnox หรือ กด http://line.me/ti/p/%40mainnox

‪#‎Mainnox‬ - เมนน็อกซ์ ‪#‎บรรเทาอาการปวด‬ ‪#‎ลดอาการเกร็ง‬ 
- ยาบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ที่มีสารMefenamix acid เพื่อลดอาการปวด
- และ Dicyclomine HCI เพื่อลดอาหารเกร็งของกล้ามเนื้อ